เมื่อโน๊ต อุดม แต้พานิช บุกนิเทศศาสตร์ อุดรธานี

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

นักวิชาการสื่อสารมวลชนรวมตัวถกปฏิรูปการเรียนการสอนเพื่อปฏิรูปสื่อ





5 นักวิชาการชี้หลักสูตรวารสารศาสตร์ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เน้นความอยู่รอด พร้อมหนุนการปฏิรูปสื่อ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2553 ณ มหาวิทยาลัยรังสิต
นายอนุสรณ์ ศรีแก้ว คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า สภาพการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนเริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤตจากจำนวนผู้ที่สนใจเข้าศึกษาวิชาวารสารศาสตร์มีจำนวนน้อยลง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และพัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขาวิชาวารสารศาสตร์จึงจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ปฏิรูปการเรียนการสอนสื่อสารมวลชนเพื่อปฏิรูปสื่อ” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์ และนำไปสู่การปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนในอนาคต ผู้เข้าร่วมการสัมมนาประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ คณาจารย์ด้านวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน และนักศึกษาเข้าร่วมงานกว่า 80 คน
วิทยากรในครั้งนี้ประกอบด้วย ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษานโยบายสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รศ.ดร.อุษา บิ้กกิ้นส์ ผู้อำนวยการหลักสูตรมหาบัณฑิต สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต คุณเถกิง สมทรัพย์ นักจัดรายการวิทยุ สถานี F.M. 96.5 และคุณสมหมาย ปาริจฉัตต์ ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด ดำเนินรายการโดยอาจารย์นิพนธ์ เจริญพจน์
ผศ.ดร.พิรงรอง รามสูต กล่าวว่า การเรียนการสอนสามารถที่จะช่วยการปฏิรูปสื่อได้คือต้องมีรายวิชาที่มีการประยุกต์ให้เข้ากับภาวการณ์ในปัจจุบัน และรายวิชาจะต้องทันกับการเปลี่ยนแปลงไปของการหลอมรวมสื่อของสื่อใหม่ด้วย
รศ.ดร.อุษา บิ๊กกิ้นส์ กล่าวว่า การจัดการเรียนการสอนวารสารศาสตร์มีพัฒนาการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2482 เป็นต้นมามีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันนี้ยิ่งต้องปรับตัวตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นนักศึกษาต้องปรับตัว รายวิชาต้องมีการปรับเปลี่ยน หลักสูตรต้องปรับปรุง
คุณสมหมาย ปาริจฉัตต์ กล่าวว่า จำนวนนักศึกษาที่เรียนหนังสือพิมพ์ลดน้อยลงเป็นปัญหาทั้งทางสถาบันการศึกษา และนักวิชาชีพ ดังนั้นนักศึกษาจะต้องปรับตัวให้มีความรู้ด้านเนื้อหาเป็นหลัก ให้มีความรู้พื้นฐานที่จำเป็นไม่ใช่แต่เก่งแต่การใช้เครื่องมือเพียงอย่างเดียว อาจารย์ต้องกำหนดให้นักศึกษาอ่านหนังสือให้มากขึ้นด้วย
ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด ผู้เข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ กล่าวว่าการปฏิรูปการเรียนการสอนด้านวารสารศาสตร์ของทุกมหาวิทยาลัยมีส่วนคล้ายคลึงกัน คือจำนวนนักศึกษาลดน้อยลง ความตั้งใจ มุ่งมั่นที่จะเข้าสู่วิชาชีพด้านวารสารศาสตร์ลดน้อยลง ทำให้การเรียนการสอนไม่ได้มาจากใจรัก จึงขาดแรงจูงใจที่จะมุ่งมั่น จึงส่งผลต่อคุณภาพของบัณฑิตอีกด้วย ทางออกคือจะต้องเติมเต็มความรู้พื้นฐานให้กับนักศึกษา และสร้างแรงจูงใจมุ่งมั่นให้กับนักศึกษาการที่พยายามผลักดันให้นักศึกษามีผลงานและมีการแข่งขันกันเพื่อให้ได้รางวัลก็เป็นการสร้างแรงจูงใจที่น่าสนใจ.
การจัดสัมมนาเรื่อง การปฏิรูปสื่อการเรียนการสอนสื่อสารมวลชนเพื่อการปฏิรูปสื่อ จัดโดย สาขาวิชาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับ คณะกรรมการพัฒนาส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบสื่อมวลชน (คพส.) สถาบันอิสรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2553 ณ ห้องประชุมออดิทอเรียม ชั้น 2 อาคารดิจิทัล มัลติมีเดีย คอมเพล็กซ์ มหาวิทยาลัยรังสิต.

วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

นักวิชาการสื่อจับมือนักวิชาชีพสื่อสารมวลชน ร่วมถกพัฒนาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาคอีสาน



จัดประชุมเครือข่าย “สถาบันการศึกษากับการมีส่วนร่วมพัฒนาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ภาคอีสาน” นักวิชาการ นักวิชาชีพภาคอีสานร่วมประชุมคับคั่ง วันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2553 ณ ห้องประชุมสัตตบรรณ โรงแรมอุบลบุรี รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานี
คุณชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำนวยการสถาบันอิศรา เปิดเผยว่า สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดประชุมเครือข่ายนักวิชาการและนักวิชาชีพสื่อสารมวลชน ครั้งที่ 2/2553 ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมพิจารณาประเด็น 4 ประเด็น ประกอบด้วย วิกฤตผู้ที่เข้าศึกษาสาขาวารสารศาสตร์ การปรับกระบวนการเรียนการสอนวารสารศาสตร์ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันเป็นผลกระทบจากการพัฒนาเทคโนโลยี ที่มีต่อการพัฒนาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ปัญหาด้านจริยธรรมวิชาชีพ และกิจกรรมประกวดผลงานสิ่งพิมพ์วารสารศาสตร์ สู่แนวคิดในการปรับตัว และการให้รางวัล
สำหรับวิทยากรนำการประชุมประกอบด้วย ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ผศ.เมตตา ดีเจริญ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อาจารย์จักษุ ตะกรุดแก้ว มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม คุณเอกนที วัชรพนมชัย รองประธานเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสาน และคุณสุชัย เจริญมุขยนันท ผู้จัดการสื่อสร้างสุข อุบลราชธานี โดยมีนักวิชาการ และนักวิชาชีพด้านหนังสือพิมพ์เข้าร่วมประชุมกว่า 30 คน
นอกจากนั้นยังมีการประชุมย่อยจัดตั้งเครือข่ายนักวิชาการสื่อสารมวลชนภาคอีสาน และจัดประชุมครั้งที่ 1/2553 ขึ้น ณ โรงแรมอุบลบุรี รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานี สมาชิกเครือข่ายเป็นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีผศ.เมตตา ดีเจริญ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาดำรงตำแหน่งประธานเครือข่าย และผศ.
ดร.เสกสรร สายสีสด มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นเลขานุการ สำหรับการสื่อสารภายในสมาชิกจะใช้การติดต่อผ่านเว็บไซต์ หรือสื่อใหม่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วย.

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

หนังสั้นนิเทศศาสตร์ "โอ่น้อยออก" ดังไม่เลิก รายการรอบรั้วราชภัฏเชิญร่วมรายการ






นศ.นิเทศศาสตร์ดังอีก ล่าสุดออกอากาศทางช่อง 1 โฮมเคเบิ้ลทีวีในรายการรอบรั้วราชภัฏ วันอังคารที่ 14 ก.ย. 53 พ่วงบุกบ้านิเทศศาสตร์ ออกอากาศวันอังคารที่ 21 ก.ย. 53


ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด ประธานสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เปิดเผยว่า รายการรอบรั้วราชภัฏได้ติดต่อทาบทามนักศึกษาทีมงานผลิตหนังสั้น "โอ่น้อยออก" เจ้าของรางวัลกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมอาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์อัจฉรา ศักยเศรษฐ์ร่วมเป็นแขกในรายการให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังการผลิตหนังสั้น พร้อมกลยุทธ์ที่สามารถคว้ารางวัลระดับดีเด่นมาครองได้สำเร็จ
นอกจากนี้รายการรอบรั้วราชภัฏ ยังเกาะติดสาขาวิชานิเทศศาสตร์ จัดรายการบุกบ้านนิเทศศาสตร์ สัมภาษณ์กิจกรรม และผลงานของสาขาวิชานิเทศศาสตร์ในปีการศึกษา 2553 อีกด้วย โดยการสัมภาษณ์นักศึกษาที่ได้รับรางวัล และประธานสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ซึ่งจะออกอากาศในวันที่ 21 กันยายน 2553 ทางช่อง 1 โฮมเคเบิ้ลทีวี โดยนักศึกษาสามารถคว้ารางวัลได้ 3 รางวัลประกอบด้วย รางวัลหนังสั้นระดับดีเด่น รางวัลประกวด Mind Map ระดับประเทศ และรางวัล Yong Presenter Aword จากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซ่า จ.อุดรธานี และได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้สนใจทุกท่านเข้าร่วมงาน ราตรีบัณฑิต คืนสู่เหย้า 20 ปีนิเทศศาสตร์ ซึ่งกำหนดจัดในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2553 นี้ สำหรับอาจารย์ที่เป็นโปรดิวเซอร์รายการในครั้งนี้ได้แก่อาจารย์สุวัฒนา ดีวงษ์ และอาจารย์สุพรรษา วงค์กัลยา.

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

นิเทศศาสตร์ภาคอีสานรวมตัว จัดงานนิเทศศาสตร์สัมพันธ์ ครั้งที่ 3 ยิ่งใหญ่





สร้างกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ พร้อมประกวด MV นักศึกษานิเทศศาสตร์ 4 มหาวิทยาลัย แห่ร่วมกิจกรรมคับคั่ง นิเทศศาสตร์ มรภ.อุดรธานีคว้าอีก รางวัล MV ชนะเลิศ วันที่ 1 – 2 กันยายน 2553
นายวุฒิพล ฉัตรจรัสกูล คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ประธานในงานนิเทศศาสตร์สัมพันธ์ ครั้งที่ 3 เปิดเผยว่า การจัดโครงการนิเทศศาสตร์สัมพันธ์ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักศึกษาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ของแต่ละมหาวิทยาลัยราชภัฏในกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยมีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมในครั้งนี้ จำนวน 4 แห่งประกอบด้วย สาขาวิชานิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีคณาจารย์เข้าร่วมจำนวน 10 ท่าน และนักศึกษากว่า 200 คน
ผศ.สมสวย รำจวน ประธานสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการจัดครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งแรกสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 2 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี เป็นเจ้าภาพ และครั้งที่ 3 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นเจ้าภาพ ซึ่งครั้งนี้เป็นการจัดกิจกรรมกระบวนการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นกับชาวนิเทศศาสตร์ของทุกมหาวิทยาลัย โดยได้รับเกียรติจาก ครูนักเอี้ยงวิทยากรกระบวนการชื่อดังของภาคอีสาน นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนุกสนาน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างให้เกิดความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นต่อกันอีกด้วย
ผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด ประธานสาขาวิชานิเทศศาสตร์ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการจัดที่มีประโยชน์เข้ากับสถานการณ์ในสังคมที่ต้องการความสมานฉันท์ ซึ่งนักศึกษาจากสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีเข้าร่วมครั้งนี้ จำนวน 40 คน อาจารย์ผู้ควบคุมประกอบด้วยผศ.ดร.เสกสรร สายสีสด อาจารย์อัจฉรา ศักยเศรษฐ์ และอาจารย์ ชายวรวงศ์เทพ ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 วันนี้ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้ทักษะการทำงานเป็นทีม สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดี
สำหรับผลการประกวด MV ในงานนิเทศศาสตร์สัมพันธ์ในครั้งนี้มีทีมจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เลย อุบลราชธานี และอุดรธานีส่งผลงานเข้าร่วมประกวด จำนวน 4 เรื่อง ผลปรากฎว่านักศึกษานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สามารถคว้ารางวัลถ้วยชนะเิลิศมาครองเป็นผลสำเร็จอีกด้วย.